ประทับใจที่สุด…

10 ก.ค.

ขณะที่เดินทางกลับสุราษฎร์ธานี

รถตู้ได้จอดแวะเติมแก๊วที่ปั๊มแห่งหนึ่งสายชุมพร-สุราษฎร์ธานี

ขณะที่จะเติมแก๊สนั้นคนขับรถให้ลงจากรถโดยให้รอที่ข้างรถ

แต่อากาศมันร้อนฉันเลยเดินเพื่อจะไปหลบเดินใกล้เซเว่น

ทันใด….นั้นก้มีเสียงตะโกนจากชายคนหนึ่ง

น้องระวังรถ

ฉันเกือบจะโดนรถชนละ

ถ้าไม่ได้พี่ชายคนนั้นฉันคงโดนชนแล้ว

ปลื้มสุดๆๆ น่าตาดีแถมยัง……

 

เที่ยวชุมพร

9 ก.ค.

วันนี้ได้ไปเที่ยวทะเลกับพี่ด้วย

สนุกมากๆๆๆเลย

ได้คลายเครียดด้วยเนื่องจากช่วงนี้

เครียดมาก

หลังจากได้ไปเที่ยว

รู้สึกว่าตัวเองหายเครียด

และพรุ่งนี้ก็จะเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย

เพื่อเผชิญกับความเครียดต่อไป

8 ก.ค.

สิ่งที่ประทับใจมาก……วันนี้เค้าได้เดินทางไปชุมพรเนื่องจากว่าจะไปหาพี่สาวและจะไปเอาเครื่องปริ๊น

ดิฉันประทับใจในตัวเพื่อนทั้งสองคนของดิฉันมากที่ยอมเสียสละ

ละมือจากงานของตัวเองเพื่อไปส่งที่สถานนีขนส่ง

โดยไม่มีการบ่นหรือปฎิเสธแต่อย่างใด

ขอบใจมากน่ะเพื่อน

ขอบใจจากใจจริง

ไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้

7 ก.ค.

ดิฉันประทับใจมากที่่ได้รับกำลังใจจากคนคนหนึ่งที่ดิฉันรัก

เนื่องจากวันนี้ดิฉันมีสอบวิชาอังกฤษ

เค้าบอกดิฉัน

ทำได้อยู่แล้ว

เรื่องจิ๊บๆๆ

ไม่ยากเกิ๊นความสามารถอยู่แล้ว

 

พี่ที่แสนดี

6 ก.ค.

ช่วงนี้ทุกคนต่างคนต่างเครียด

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน

เรื่องส่วนตัว

เรื่องความรัก

ทุกคนล้วนมีปัญหากันทุกคน

ปัญหาของแต่ละคนมีวิธีแก้ไขที่แตกต่างกัน

ดิฉันก้อมีปัญหา

เช่นเดียวกันกับทุกคน

ปัญหาของชั้นในตอนนี้คือปัญหานวัตกรรม

วิธีแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด

คือ ขอกำลังใจกับคนในครอบครัว กับคนที่ดิฉันรัก

นั้นคือพี่สาวของิฉันเอง

พี่สาวให้กำลังใจได้ดีมาก

และเป็นคำพูดที่ดิฉันประทับใจมาก

ไม่ต้องเครียด…. พี่เชื่อน้องของพี่เก่งที่สุด

 แค่นี้ชั้นก้อหายเครียดแล้ว

ประทับใจที่สุด

5 ก.ค.

สิ่งที่ประทับใจวันนี้ คือ ประทับใจน้องๆหอพักหญิงวิภาวดีทุกคน

ที่ให้ความร่วมมือกับพี่ๆเป็นอย่างดี

ขอบคุณที่ให้ความช่วยเหลือพี่ในการทำกิจกรรมหอพัก

ขอบคุณเพื่อนๆที่ร่วมกันทำงานหอพัก

ขอบคุณจากใจจริง

ประทับใจที่สุดเรย

4 ก.ค.

สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดในวันนี้

เมื่อ 4 โมงเย็นคาบวิชานวัตกรรม ได้เข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาด้วยความเครียดมากเนื่องจากนวัตกรรมที่เสนออาจารย์มีความผิดพลาดสูง

ไปไม่รอดแน่ๆ 

แทนที่อาจารย์จะดุด่า แต่ทางกลับกันอาจารย์ ให้กำลังใจและชี้แนะแนวทางในการพัฒนานวัตกรรมชิ้นใหม่ให้

ทำให้มีแรงใจและกำลังใจในการพัฒนานวัตกรรมต่อไป

ขอพระคุณอาจารย์ที่ปรึกษานวัตกรรมเปงอย่างสูง

เรื่อง…ขำๆๆที่ไม่มีวันลืม

4 ก.ค.

เรื่องขำๆๆๆ…..

คุณเคยไหมที่โทรไปขอเพลงที่รายการวิทยุคลื่นต่างๆๆ

ชั้นเปงคนคนหนึ่งที่ชอบโทรไปขอเพลง

เป็นปกติของทุกวันเมื่อถึงเที่ยงก่อนรับประทานอาหาร ชั้นจะโทรไปขอเพลง

มีอยู่วันหนึ่ง

ดิฉัน….. สวัสดีค่ะ

ผู้ชายคนหนึ่ง ……… สวัสดีครับ

ดิฉัน……ขอเพลงเดาใจของลาบานูนค่ะ มอบให้เพื่อนๆห้อง 6/6 ค่ะ

พูดด้วยความมั่นใจมาก

ผู้ชายคนหนึ่ง……. ขอโทษน๊ะครับที่นี่ร้านขายไก่ครับมะมีเพลงให้คุณ มีแต่ไก่ไม่ทราบว่าจะรับกี่ตัวดีครับด้วยความหน้าแตกรีบวางสายทันที

สงสัยผู้ชายคนนั้นคงคิดว่าชั้นบ้ามากเลยใช่ไหมที่โทมาขอเพลงที่ร้านขายไก่

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาดิฉันไม่โทรขอเพลงอีกเลย   

29 มิ.ย.

ที่มา http://www.banprak-nfe.com/webboard/index.php

อยากสวยแบ๊วแบบหนุ่มสาวเกาหลี “บิ๊กอายส์” จึงขายดิบขายดีและมีราคาถูกมากจนน่าใจหายอันตรายคืบคลานเข้าใกล้ตาแต่พวกเรายังชะล่าใจ

          ดังที่ว่า “ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ” มัน จึงเป็นสิ่งมีค่าและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์อวัยวะชิ้นนี้มีกลไกการทำ งานที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อน เป็นระบบประสาทที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับประสาทรับความ รู้สึกอื่นๆ

          แต่ตราบใดที่เรายังมองเห็นได้ดี ไม่มีโรคตามมากวดหัวใจ เราจึงมักละเลยที่จะดูแลรักษาให้ตาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีให้นานที่สุด แถมยังใช้สายตาไม่ถูกต้องด้วย จึงทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงเรื่อยๆ แต่พวกเราไม่รู้ตัว ยิ่งตอนนี้กระแส “ตาแบ๊ว” ไม่ใช่แค่แฟชั่นมาประเดี๋ยวก็ไป แต่มันกำลังจะหยั่งรากฝังลึกในดวงตาทุกคู่

          ดร.ดนัย ตันเกิดมงคล หัวหน้าสาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เล่าให้เราฟังว่าในแต่ละปี เยาวชนใส่คอนแทคเลนส์เพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยไม่คำนึงเรื่องคุณภาพ และรู้สึกเอาเองว่าใช้ได้เหมือนสินค้าทั่วไป แต่ความจริงแล้วคอนแทคเลนส์เป็นเครื่องมือแพทย์ มันต้องทำให้เราใช้สายตาได้เต็มประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเป็นหลัก

          คอนแทคเลนส์สีหรือที่เรียกกันว่า บิ๊กอายส์ นั้นจัดอยู่ในหมวดคอสเมติก ถูกสร้างมาเป็นพิเศษด้วยการใส่เม็ดสีที่สามารถพรางสีม่านตาเดิมให้เป็นสีที่ ต้องการได้ จึงใส่ไม่สบายเท่าคอนแทคเลนส์ชนิดอื่นๆ และเนื่องจากมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน จึงมีอัตราการซึมผ่านของออกซิเจนน้อยกว่า ฉะนั้นเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีแสงสว่างน้อย รูม่านตาขยายเกินขอบเขตของช่อง ทำให้การมองเห็นอาจมีประสิทธิภาพด้อยลง

          ที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือผลกระทบระยะยาวมากกว่า เพราะการใช้คอนแทคเลนส์สีแบบผิดๆ และใช้สินค้าด้อยคุณภาพ อาจทำให้ติดเชื้อและลุกลามเรื้อรังในหนังตาและสุขภาพกระจกตาเสื่อมก่อนวัย

          คุณนพพร ภัทรรุจี ผู้อำนวยการฝ่ายการค้าบริษัท ซีบาวิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด อธิบายเสริมว่าคนใส่คอนแทคเลนส์ มีไลฟ์สไตล์ ใช้สายตาอย่างหนักหน่วงมากเกินไป พวกเขาใส่มันนานกว่า 8-10 ชั่วโมงและอยู่กับวัสดุที่ไม่สามารถส่งผ่านออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเซลล์กระจก ตาได้เพียงพอ

          จึงเป็นที่มาของภาวะ การขาดออกซิเจนของกระจกตา นำมาซึ่งภาวะกระจกตาชราเกินวัย โดยจะมีอาการตาแดงโดยไม่ทราบสาเหตุระคายเคือง มองเห็นภาพมัว หรือแสงรุ้งรอบดวงไฟ มองภาพไม่ชัดเจน เหมือนสายตาสั้น เพิ่มขึ้นเพราะกระจกตาบวม จนไม่สามารถทนใส่คอนแทคเลนส์ได้นาน หรือไม่ได้เลยในที่สุด

          ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มสาวๆ ทั้งหลายจะ “แอ๊บแบ๊ว” ดร.ดนัยบอกทางป้องกันไว้ว่า ผู้ใส่ต้องมีกฎเหล็ก เมื่อตัดสินใจใส่คอนเทคเลนส์ควรแวะไปให้จักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรวิเคราะห์ ความเหมาะสม หรือข้อจำกัดเฉพาะตัวก่อน เช่น บางคนกระจกตาบางมาก จึงไม่เหมาะกับคนแทคเลนส์ชนิดใดเลย หรือคนที่สายตาเอียงต้องใช้คอนแทคเลนส์สำหรับสายตาเอียง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดขึ้น เป็นต้

          เมื่อไร้ปัญหาใดๆ ก็ควรเลือกเลนส์ที่มีการรับรองทางการแพทย์ ครั้นใส่แล้ว ก่อนนอนก็ต้องถอดออก และทำความสะอาดอย่างเคร่งครัด

          “พยายาม หาวัสดุที่สามารถให้ออกซิเจนผ่านตาได้สูง และอย่าใช้คอนแทคเลนส์ผิดประเภท เช่นรายเดือนก็ต้องใช้เพียงเดือนเดียวแล้วทิ้ง หรืออย่าแลกใส่กับเพื่อน และอย่าเปลี่ยนแบรนด์บ่อยหากใช้ยี่ห้อไหนแล้วดีกับตัวเองก็อย่าเผลอใจไปกับ โปรโมชั่นเจ้าอื่น และถ้าตามีปัญหา ก็อย่าทนให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน” ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตากล่าว

เทคนิคยืดดวงตา

          – สวมแว่นสายตาให้เหมาะสมกับสายตาหากปล่อยทิ้ง คนสายตาสั้นอาจทำให้เกิดตาเหล่ออก คนสายตายาวจะตาเหล่เข้า

          – ใส่แว่นตาเป็นประจำ จะทำให้สายตาคงที่ หรือเปลี่ยนแปลงช้าลง

          – ใช้น้ำยาล้างคราบโปรตีนทุกเดือนไม่เปลี่ยนยี่ห้อน้ำยาล้างบ่อยๆ

          – พักสายตา 5-10 นาทีหลังใช้คอมพิวเตอร์ทุกๆ 1 ชั่วโมง

          – ระยะอ่านหนังสือไม่ควรใกล้กว่า 40 ซม.

          – ห่างจากจอทีวีอย่างน้อย 4 เท่าของขนาดจอ

          หมั่นตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีระยะยาว…

ชุมชนเป็นสุข

28 มิ.ย.

ที่มา http://www.thaihealth.or.th/multimedia/2061

“ชุมชนเป็นสุข”

 

โครงการชุมชนเป็นสุขเป็นโครงการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งเน้นเอาสุขภาวะทั้งทางกาย ทางใจ ทางสังคม และทางปัญญา ของคนในชุมชนเป็นตัวตั้ง โดยใช้หลักอริยะสัจสี่ และหลักอปริหานิยธรรมของพระพุทธเจ้ามารวมตัวร่วมกันเรียนรู้ ร่วมกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อค้นหาความทุกข์หรือปัญหา ค้นหาสมุทัย หรือสาเหตุ ค้นหานิโรธ คือ ทางเลือกในการดับทุกข์ และค้นหามรรค หรือแผนปฏิบัติการดับทุกข์ให้หมดไป

 

โดยในขั้นทางเลือกและแผนปฏิบัติการได้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นหลักชัยของการพัฒนาให้รู้จักตนเอง คือ ความพอเพียง รู้จักอุดรูรั่วที่ไม่จำเป็นในชีวิตทำให้ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ และอาศัยการออม คือ การออมน้ำ ออมความอุดมสมบูรณ์ของดิน ออมสัตว์ ออมต้นไม้ยืนต้น ออมเงิน สั่งสมกัลยาณมิตร และสั่งสมภูมิปัญญาในการแก้ไขปัญหา ด้วยหลักการทั้งหมดร่วมกับการค้นหาผู้สนใจที่มีอิทธิบาทสี่ คือ พอใจและสนใจแนวทางนี้จึงมีความขยันหมั่นเพียร มีความเอาใจใส่ และประเมินผลตลอดเวลา ทำให้เกิดตัวอย่างของปัจเจกและครอบครัว

 

 ชุมชนที่เป็นตัวอย่างที่มีทุกขภาวะลดลง เกิด สุขภาวะเพิ่มขึ้นทั้งทางกาย ทางใจ ทางสังคม และทางปัญญา คอยบอกต่อญาติสนิทมิตรสหายให้ทำตาม และเป็นที่ยอมรับของผู้สนใจทั้งในชุมชน นอกชุมชน และในเครือข่ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นชุมชน และเครือข่ายที่มีความทุกข์ลดลง และมีสุขภาวะทั้งทางกาย ทางใจ ทางสังคม และทางปัญญา อย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่มีความยั่งยืนในที่สุด

 

โฆษณารณรงค์ “ชุมชนเป็นสุข” ถ่ายทอดเรื่องราวแนวคิดชุมชนเป็นสุขด้วยตัวแทนสมมติของกลุ่มชาวบ้านชุมชนหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในชุมชนแบบเกื้อกูลกัน แบ่งปันในสิ่งที่มีให้ผู้อื่นทำให้มีทรัพยากรที่ใช้ร่วมกันได้มากขึ้น อีกทั้งยังเกิดการร่วมคิดร่วมทำเพื่อปกปักรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชนให้ลูกหลาน โดยสมมติเหตุการณ์จำลองกระบวนการอยู่ร่วมกันแบบชุมชนเป็นสุข เริ่มตั้งแต่การแบ่งปันสิ่งที่ต่างคนต่างมีเช่นอาหาร ทำให้มีอาหารมากขึ้น การช่วยกันระแวดระวังภัย การรวมตัวกันเพื่อสร้างผลผลิตของชุมชน รวมทั้งการใช้ชีวิตโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมร่วมกัน